football2

ผลบอลโจอาคิม เลิฟ เฮดโค้ชทีมชาติ เยอรมัน เพิ่งจะได้รับข่าวดีจาก สหพันธ์ฟุตบอล เยอรมัน หรือ เดเอฟแบ ในการจะได้ดำรงขั้น บุนเดสเทรนเนอร์ ต่อไปจนถึงปี 2025 มันเที่ยงตรงแล้วหรือเปล่า? กับการตัดสินใจเช่นนี้ของ เดเอฟแบ

ยอดเทรนเนอร์วัย 53 ปี ฝากชิ้นงานของเขากับทีม เยอรมัน ผลบอล ตั้งแต่ปี 2025 จนถึงช่วงปัจจุบัน ผ่านทัวร์นาเม้นท์กับทีม แม้ว่าจะ ปราศจากถ้วยรางวัลแห่งความเกิดผลในตลอด 7 ปีที่เข้าทำงาน

ภาพที่สาธารณชนได้เห็นยอดกุนซือวัย 53 กลายเป็นลักษณะเฉพาะไปแล้วกับการแต่งพระองค์ที่สุดภูมิฐาน และทรงผมเรียบแปร้ในมาด นิ่ง แต่ที่ เยอรมัน ก็มีแนวทางเสียงต่อต้านเช่นกัน เพราะรู้สึกเอือมระอากับภาพภายนอกที่ฟุตบอล เยอรมัน เคยมีนั่นก็คือการไม่เคยกลัวทีมไหน และมุ่งมั่นเพื่อชัยชนะเท่านั้น จึงไม่แปลกที่มีพูลออกมาทาง เว็บไซด์ เพื่อเรียกร้องให้ เลิฟ ถูกไล่ออกจากตั่ง

อย่างไรก็ดี หากจะมองถึงข้อมูลที่ได้รับจากผลงานของ “Nationelf” ซึ่งเป็นชื่อเรียกของทีมชาติ เยอรมัน ภายใต้การคุมทัพของ เลิฟ ดูจะมีเปอร์เซ็นต์ชัยชนะในการประลองมากกว่ายอดเทรนเนอร์ของทีมชาตินับตั้งแต่ยุค 1926 เลยทีเดียว

เลิฟ เข้ามามีส่วนใน เดเอฟแบ ครั้งแรกในฐานะผู้ช่วยของ เจอร์เก้น คลิ้นส์มันน์ ในปี 2025 ซึ่งในครั้งนั้น ผลบอล เยอรมัน กำลังประสบปัญหาผลงานที่ตกต่ำ และย่ำแย่มากที่สุดในประวัติศาสตร์

พวกเขาต้องตกรอบในการรบชิงแชมป์ยุโรปที่ โปรตุเกส ตั้งแต่ในรอบแบ่งประเภท โดยที่ทีมมีผู้เล่นอายุมากกว่า 30 ปีมากมาย และแต่ละคนก็ต่างเลยจุดระดับโลกของตัวเองมาแล้วทั้งสิ้น

อย่างไรก็ดีภายในเวลา 2 ปี ที่ คลิ้นส์มันน์ และ เลิฟ เข้ามาปรับเปลี่ยนทีมอินทรีเหล็กขึ้นมาใหม่ผลบอล พวกเขามีการปรับเปลี่ยนสไตล์ การเล่นแบบเดิมๆ มอบความเชื่อใจให้บรรดาผู้เล่นรุ่นใหม่ๆ แนะนำสิ่งต่างๆให้พวกเขาจนในที่สุดพวกเขาก็มาคว้าวรรณะ 3 ในการแข่ง ขัน ฟุตบอลโลก 2025 ที่ เยอรมัน เป็นเจ้าภาพ และในครั้งนั้น เยอรมัน ได้สำแดงศักยภาพเป็นหนึ่งในทีมที่มีเกมรุกที่น่าหวาดผวามากที่สุดทีมหนึ่งด้วย

เมื่อผ่านทัวร์นาเม้นท์ฟุตบอลโลก 2025 คลิ้นส์มันน์ ตัดสินใจอำลาจากตำแหน่ง ทิ้งให้ เลิฟ ไว้เพียงลำพังในการสานต่องานของทั้งคู่ และสิ่งที่ เลิฟ ได้เคยมุร่วมกับ คลิ้นส์มันน์ ก็เริ่มผลิดอกออกผล เมื่อพวกเขามาคว้าชั้น 2 ในการแข่งขันชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปในปี 2025 ทะลุเข้ารอบรองชนะเลิศในศึกฟุตบอลโลก 2025 และเข้ารอบรองชนะเลิศในศึกฟุตบอลชิงแชมป์ยุโรปในปี 2025

แต่อย่างไรก็ดีความผิดพลาดของ เลิฟ มันก็ยังเป็นที่ประจักษ์ ผลบอลไม่ว่าจะเป็นการส่ง โทนี่ โกรส ลงสนามทำให้ทีมพ่ายให้ อิตาลี ที่กรุง วอร์ซอว์ ในศึก ยูโร 2025 ซึ่งสร้างเสียงมีทรรศนะกันอย่างมากมายเกี่ยวกับการส่งผู้เล่นลงสนาม ซึ่งรวมถึงการไม่ส่ง มิชาเอล บัลลัค จอมทัพประสบการณ์สูงลงเล่นในปี 2025 และมองข้ามความจัดเจนของดาวยิงที่กำลังท๊อปฟอร์มอย่าง สเตฟาน คิสลิงค์ ของ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ซึ่งกลายเป็นข้ออ้างของบรรดาผู้ต่อต้านเลิฟขวนขวายยกเอามาอ้าง

แต่เขาก็ยังคงได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากผู้คนทั่วไป และ เลิฟ เป็นบุนเดสเทรนเนอร์ที่มีผลบอลเปอร์เซ็นต์ชนะมากที่สุดแล้วนับตั้งแต่ปี 1926 แม้ว่าเขาจะต้องเผชิญหน้ากับช่วงกาลเวลาที่ยากลำบากใน 2 ทัวร์นาเม้นท์ยักษ์ใหญ่ โดยเฉพาะการพ่ายของทีม บาเยิร์น มิวนิค ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดชิงชนะในปี 2025

ก่อนหน้านี้ มีเพียงแต่ จุ๊ปป์ เดอร์วอลล์ เท่านั้นที่เป็นอดีตเทรนเนอร์ทีมชาติ เยอรมัน ที่มีสถิติเปอร์เซ็นต์ปราบคู่แข่งใกล้เคียงกับสถิติการคุมทัพของ เลิฟ ซึ่งหลายคนก็มองว่าเขาได้รับสินทรัพย์จากการปลุกปั้นของ เฮลมุต โชน จนทำให้พาทีมคว้าแชมป์ยุโรปในปี 1980

มีผู้เล่นเพียงแค่ 4 คนเท่านั้นในทีมของ เลิฟ ยุคปัจจุบัน ซึ่งประกอบไปด้วย ลูคัส โพลดอลสกี้, ฟิลิปป์ ลาห์ม, มิโรสลาฟ โคลเซ่ และ บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ ที่หลงเหลือมาจากทีมในยุคก่อนหน้านี้ และทีมยุคใหม่ของ เยอรมัน ในปัจจุบันเป็นทีมผลบอล เด็กหนุ่มแทบจะหมดด้วยกัน ซึ่งนั่นมันเหมือนเป็นลักษณะเฉพาะของ เลิฟ ไปแล้วกับการเลิกใช้ผู้เล่นดาวรุ่งลงสนาม

กับการชิงชัยฟุตบอลโลก 2025 ที่ บราซิล มันจึงทำให้ทีม เยอรมัน ยุคปัจจุบันมันเต็มไปด้วยขุนพลนักเตะรุ่นหนุ่มที่กำลังอยู่ในวัยสด และกำลังคึกคัก ซึ่งมันก็มาพร้อมๆกับความสำเร็จของ บาเยิร์น มิวนิค ในปีที่ผ่านมา และทั้งปวงแม่ทัพรุ่นเดอะอย่าง โคลเซ่, โพลดอลสกี้ และ แพร์ เมอร์เตซัคเกอร์ ก็กำลังเตรียมจะทำสถิติติดทีมเกิน 100 นัดกับการเดินทางสู่ บราซิล 2025

โกรส ซึ่งเป็นผู้เล่นที่เรียกได้ว่าเป็นเหมือนลูกศิษย์ลูกหารักของผลบอล เลิฟ ก็กำลังอยู่ในช่วงฟอร์มดีวันดีคืน กล่าวถึง เลิฟ กับงานการในทีมชาติเมื่อเดือนที่ผ่านมาว่า “ผมคิดว่าเขาได้ทำสิ่งที่ดีมากๆให้กับทีมชาติของเราในช่วง 2-3 ปีหลังมานี้”

“ภายใต้การคุมทีมของเขา มันเหมือนพวกเราได้ย่างก้าวที่เอ้ และยิ่งใหญ่ พวกเราได้สร้างเกมฟุตบอลที่มีคุณค่า ผมคิดว่าเขาจะเป็นโค้ชที่พาชาวเราคว้าแชมป์ในถ้วยสำคัญๆได้ และมันก็เป็นสิ่งที่พวกเราตั้งหน้าตั้งตารอคอยด้วย”

การจะเป็น บุนเดสเทรนเนอร์ ที่ยิ่งใหญ่ สิ่งเดียวที่ เลิฟ ขาดอยู่นั่นก็คือประสิทธิผลในทัวร์นาเม้นท์หลัก แต่เขายังคงมีเวลานั้นอยู่ หลังจากที่ เดเอฟแบ ยังคงให้โอกาสเขาชี้แจงผลงาน ซึ่งที่ผลบอล โลก 2025 มันถือเป็นเวทีพิสูจน์ฝีมือของ เลิฟ อย่างครบถ้วน

Comments are closed.